ทำไมบริษัทรับเหมาถึง "แพง" กว่าช่างรับเหมา?

เขียนเมื่อ 11 มีนาคม 2021

เคยสงสัยไหมค่ะ ว่าทำไมเวลาเราจ้างบริษัทรับเหมาตกแต่งภายใน ทำไมราคามันแพง วันนี้แอตเอาคำตอบมาฝากค่ะ

เจ้าบ้านหลายท่าน เมื่อได้ลองเห็นใบเสนอราคาของบริษัทรับเหมาแล้วมักเกิดคำถามต่างๆ ทั้งราคาทั้งรายการต่างๆ เนื่องจากลูกค้ายังไม่รู้ถึงกระบวกการทำงานของรับเหมาค่ะ ว่ากว่าจะมาเป็นบ้าน หรือห้องที่ตกแต่งสวยๆแล้วนั้น มันมีขั้นตอนการผลิตเป็นอย่างไร

โดยขอแบ่ง 6 ขั้นตอน ดังนี้ค่ะ


1. Pre-production : ก่อนอื่นเราต้องให้ช่างไม้ไปเพื่อวัดพื้นที่หน้างานจริง เพื่อลดความผิดพลาดของขนาด เพราะบางทีขนาดตามแบบนั้นระบุไว้ไม่ตรงกับพื้นที่จริง โดยให้ช่างผู้สร้างชิ้นงานไปเพื่อดูพื้นที่หน้างานเผื่อต้องการการปรับแบบ หรือมีข้อจำกัดที่ต้องเปลี่ยนแปลงแบบก็จะแจ้งให้ทราบก่อนการเริ่มดำเนินการสร้างชิ้นงานขึ้นมา ตรงนี้ถือเป็นจุดสำคัญจุดหนึ่งที่ต้องใช้ประสบการณ์ของช่างเพื่อประเมินหน้างาน หลังจากนั้นก็จะมาถอดรายการของแบบ เพื่อเตรียมซื้อวัสดุ อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ต่างๆ รวมถึงพวกผ้า หนัง หรือกระจก ตามสเปตต่างๆที่อยู่ในแบบเพื่อเตรียมก่อนเริ่มผลิต


2. Factory production : เป็นขั้นตอนที่เกิดขึ้นภายในโรงงานก่อนโดยเริ่มจากส่วนชองช่างไม้ ที่จะขึ้นโครงไม้และประกอบชิ้นงานออกมาสำเร็จตั้งแต่หน้างานเพื่อที่ว่าเมื่อนำไปประกอบที่หน้างานชิ้นงานออกมาสมบูรณ์ และใช้งานได้ หลังจากนั้นจะถอดชิ้นงานออกมาเป็นชิ้นๆเพื่อง่ายต่อการขนย้าย และการทำสี โดยช่างสีจะเป็นคนประเมินชิ้นงานและทำสีตามที่ระบุในแบบ ตั้งแต่ขั้นตอนการลงรองพื้น โป๊ ขัด และพ่น ก็จะเกิดขึ้นในโรงงานนี้ โดยการที่ชิ้นส่วนถูกแยกออกมาเป็นชิ้นๆแล้วทำให้การทำสีเต็มชิ้นทุกส่วน เมื่อนำมาประกอบที่หน้างานจะเรียบ เนียน และไม่ต้องแต่งสีมากเมื่อถึงหน้างาน หรือบ้านลูกค้าแล้ว ทำให้บ้านลูกค้าไม่เละเทะมาก ซึ่งช่างรับเหมาบางเจ้าที่ไม่มีโรงงานจะไปผลิตที่บ้านลูกค้าเลย อาจจะโรงจอดรถหรือโถงกลางบ้านที่มีพื้นที่กว้างหน่อย เอาว่าไปพาสีตั้งโครงตู้ที่บ้านลูกค้าเลยก็ว่างั้น ซึ่งจะเกิดความเละเทะ และอาจสร้างความเสียหายให้บ้านของลูกค้าได้


3. On site prepration : เข้าไปเตรียมหน้างาน โดยจะใช้กระดาษลูกฟูกปูพื้น และไม้รอง เพื่อเป็นการป้องกันพื้นผิวสำหรับหน้างานที่ไม่ได้ปูพื้นใหม่ รวมถึงปิดพลาสติดคลุมที่บริเวณช่องแอร์ และปลั๊กไฟเพื่อป้องกันฝุ่น


4. on site installation : ขนชิ้นงานที่ทำแล้วที่โรงงานเพื่อไปประกอบที่หน้างานลูกค้าจากที่ได้ทำมาจากโรงงาน โดยในส่วนนี้ช่างไม้จะต้องนำเครื่องมือ เครื่องเลื่อยไปด้วยที่หน้างาน เพื่อที่ว่าอาจจะต้องมีการปรับเพิ่มลดขนาดนิดหน่อยเพื่อให้ฟิตกับพื้นที่จริง รวมถึงงานที่ต้องทำหน้างานเป็นการทำหลุมฝ้า หรือกล่องม่าน ที่ต้องไปปรับปรุง ตัดแต่งกันหน้างานซึ่งต้องใช้รถขนาดใหญ่ขนย้ายเครื่องมือต่างๆไป และใช้เวลาในการติดตั้งที่หน้างานเพื่อยึดเฟอร์นิเจอร์เข้าที่ผนังหรือฝ้า เพราะเฟอร์นิเจอร์บิ้วอินจะติดตั้งติดกับโครงสร้างของตัวอาคารไม่เหมือนกับเฟอร์ลอยตัวที่เพียงประกอบเสร็จแล้วก็คือเสร็จเลยไม่ต้องยึดติดกับใดๆ


5. Defect collection : ส่วนของการเก็บงาน โดยช่างสีจะแต่งเก็บสีตามจุดต่างๆที่เกิดขึ้นจากการติดตั้ง เช่นรอยตะปูที่ยึดเฟอร์ติดไปกับผนังจะต้องโป๊และแต่งสีให้เรียบเนียน รวมไปถึงการยาตามแนวร่องตู้ต่างๆ เพื่อให้งานออกมาเสมือนว่าเฟอร์บิ้วเป็นส่วนหนึ่งของบ้านไปเลย ดูเป็นสัดส่วนไม่มีรอยต่อ


6. After service : ข้อนี้ค่ะถือเป็นข้อชูโรงของบริษัทรับเหมาค่ะ ด้วยความที่เป็นบริษัทเองค่ะ เมื่อลูกค้าเกิดปัญหาอะไรหลังจากการส่งมอบงานแล้ว ก็สามารถติดต่อเข้ามาสอบถามหรือนัดช่างเข้าไปดูและช่วยแก้ปัญหาร่วมกันค่ะ มีลูกค้าที่ผ่านไป 10ปีแล้วติดต่อกลับมาให้ช่วยเข้าไปซ่อตู้เพราะช่วงน้ำท่วม หรือเมื่อผ่านการใช้งานไปแล้ว10-20ปี ก็มีให้เข้าไปแต่งงานสีบางจุด ซ่อมบ้านบางส่วนตามสภาพการใช้งานค่ะ เราเสมือนเป็นเพื่อนบ้านที่อยู่บ้านระแวงเดียวกันค่ะ สามารถติดต่อหาเราได้ตลอด


และนี้ก็คือขั้นตอนของการทำงานของบริษัทรับเหมาตกแต่งภายในค่ะ อาจจะไม่ทุกบริษัท และก็จะมีขั้นตอนประมาณนี้ค่ะ

รู้อย่างนี้แล้วหลายท่านคงคลายสงสัยไปได้นะคะว่าทำไมราคามันถึงแพง เขาทำงานกับยังไง หากท่านไหนมีข้อสงสัย หรืออยากให้แอตนำเรื่องได้มาเล่าก็คอมเม้นบอกได้เลยนะคะ


แกรนด์ เฮ้าส์ เฟอร์นิเจอร์

รับ ออกแบบ ตกแต่งภายใน ครบวงจร

Grand House Furniture